เปรียบเทียบไฟ Nanlite Forza Series 4 รุ่น Forza 200 Forza 300 Forza 500 Forza 720

ในบทความนี้ทำขึ้นมาให้ทุกท่านประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า Nanlite Forza Series ให้แสงสว่างระดับมืออาชีพ ซึ่งวันนี้จะมาเปรียบเทียบไฟ Forza ทั้ง 4 รุ่น Forza 200 ,Forza 300 ,Forza 500 ,Forza 720 มีจุดเด่นอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร ?

1. ความสว่างสูง

Nanlite Forza Series เป็นไฟสปอร์ตไลท์ที่ให้แสงสว่างกับตัวแบบได้อย่างเต็มที่ และให้ความสว่างกับงานสตูดิโอได้แบบมืออาชีพ โดยไฟให้แสงสีขาวแบบ Daylight (5600K)ให้กำลังไฟสูง โดยเมื่อเทียบความสว่างของไฟในแต่ละรุ่นในระยะ 1 เมตร Nanlite Forza 200 มีความสว่างสูงสุด 37,540 ลักซ์ ,Nanlite Forza 300 ให้ความสว่างอยู่ที่ 43,060 ลักซ์ , Nanlite Forza 500 ให้ค่าความสว่างอยู่ที่ 66,300 ลักซ์ ในระยะ 1 เมตร

และไฟสปอร์ตไลท์ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Nanlite Forza 720 ไฟรุ่นใหญ่สุด ให้กำลังไฟมากถึง 800 วัตต์ สูงที่สุดในตอนนี้ โดยให้ค่าความสว่างอยู่ที่ 124,000 ลักซ์ ในระยะ 1 เมตร ให้ความสว่างได้อย่างจุใจ จึงสรุปได้ว่า Nanlite Forza 720 ให้ความสว่างมากกว่า Nanlite Forza 500 ,Forza 300 และ Forza 200

2. ให้สีตรง แม่นยำ ไม่เพี้ยนจากธรรมชาติ

จุดเด่นของไฟแบรนด์ Nanlite คือ ความแม่นยำสี โดยให้ค่าความแม่นยำสีสูง ซึ่งในตระกูล Forza ก็เช่นเดียวกัน อ้างอิงสีถูกต้อง แสดงสีที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ สีผิวและสีวัตถุจะไม่เพี้ยนไปจากธรรมชาติ จึงช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการ Post-Processing ด้วย 

โดยค่าความความแม่นยำของสี Nanlite Forza 200 ให้ค่าความแม่นยำสีสูงถึง CRI 98 TLCI 97 ,Nanlite Forza 300 มีค่าความแม่นยำสีสูงถึง CRI 98 TLCI 95 ,Nanlite Forza 500 มีค่าความแม่นยำสีสูงถึง CRI 98 TLCI 95 และ Nanlite Forza 720 มีค่าความแม่นสีสูง CRI 95 TLCI 96 ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน

3. พกพาใช้งานสะดวก

ไฟซีรีส์ตระกูล Forza เป็นไฟที่มีน้ำหนักไม่มาก วัสดุผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ แข็งแรงทนทาน ซึ่งไฟ Forza 200 มีน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม ,Forza 300 น้ำหนัก 2.31 กิโลกรัม ,Forza 500 น้ำหนักอยู่ที่ 2.49 กิโลกรัม ซึ่งไม่ได้แตกต่างกันมาก

สำหรับไฟ Nanlite Forza 720 ที่มีน้ำหนัก 4.8 กิโลกรัม แต่ไม่หนักมากเกิน พร้อมกระเป๋าใส่อุปกรณ์และไฟ เพื่อการเคลื่อนย้ายสะดวกมากขึ้น จึงสรุปได้ว่าไฟทั้ง 4 รุ่น สามารถพกพาใช้งานทั้งในและนอกสถานที่ได้สะดวก

4. สามารถปรับลดเพิ่มแสง

การปรับลดเพิ่มแสงทำได้อย่างละเอียด และปรับความสว่างได้ไม่สะดุดตา ซึ่งไฟตระกูล Forza ปรับความสว่างได้แบบละเอียดตั้งแต่ 0-100 จึงปรับลดเพิ่มแสงได้อย่างนิ่มนวล

การปรับลดเพิ่มแสงของไฟ Nanlite Forza 720 แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ คือ สามารถปรับลดเพิ่มแสงได้ละเอียดมากขึ้น โดยปรับได้ตั้งแต่ 0.01-100% ทำให้การลดเพิ่มแสงทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่รู้สึกกระตุกอารมณ์

5. พัดลมระบายความร้อน ทำงานเงียบ ไม่รบกวนการทำงาน

Nanlite Forza Series มีระบบพัดลมระบายอากาศที่ทำงานอัตโนมัติเมื่อมีความร้อน ช่วยยืดอายุการใช้งานของไฟ ซึ่งพัดลมระบายของ Nanlite Forza Series ทำงานเงียบ และไม่มีเสียงรบกวนการทำงานวิดีโอเลย

6. สเปเชียลเอฟเฟค

Nanlite Forza Series ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การทำงานของ Creator และ Filmmaker โดยทั้งอำนวนความสะดวกและครอบคลุมการทำงาน ซึ่ง Nanlite Forza 200 มีเอฟเฟคมาให้ใช้มากถึง 11 แบบ ,Nanlite Forza 300 มีเอฟเฟค 4 แบบ ,Nanlite Forza 500 เอฟเฟค 4 แบบ และ Nanlite Forza 720 มีเอฟเฟคให้ลือกใช้มากถึง 11 แบบ เพื่อสร้างบรรยากาศแสงโดยที่ไม่ต้องทำเองเลย

จึงสรุปได้ว่า Nanlite Forza 200 ,Nanlite Forza 720 มีเอฟเฟคมากกว่าไฟ Nanlite Forza 300 ,Nanlite Forza 500

7. หน้าจอแสดงผลได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของไฟ Nanlite Forza Series คือ เรื่องของหน้าจอ OLED ที่แสดงสถานะชัดเจน ไม่ต้องกังวลหากต้องไปทำงานในที่แสงน้อย และปุ่มปรับการตั้งค่าที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้สะดวกในการทำงาน

8. ทำงานได้ทั้งในสตูดิโอ และนอกสถานที่ได้

Nanlite Forza Series รองรับการใช้พลังงานได้หลากรูปแบบทั้งไฟบ้าน และรองรับแบตเตอรี่ V-mount ได้ถึง 2 ก้อน จึงทำงานได้ทั้งในสตูดิโอและนอกสถานที่ เพิ่มทั้งความสะดวกในการทำงาน และคล่องตัวในการจัดการการทำงาน

9. รองรับการทำงานกับ Light modified

ด้วย Bowen mount ที่ใช้ได้กับ Light modified หลายรุ่นหลายแบบ โดยเลือกใช้งานอุปกรณ์กระจายแสงทั้งแบบร่ม หรือ Softbox เพื่อปรับทิศทางของแสงหรือเลือกลักษณะของรูปแบบแสงที่จะใช้ได้ตามที่ต้องการ

10. ควบคุมง่าย ไม่ซับซ้อน

การควบคุมสามารถเลือกควบคุมการทำงานของไฟได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับโดยตรงจากปุ่มควบคุม และการควบคุมแบบไร้สายผ่าน 2.4G,Bluetooth และควบคุมผ่านแอป nanlink รวมไปถึงควบคุมด้วย DMX/RDM