อุปกรณ์ไฟสตูดิโอสำหรับมืออาชีพ
NANLITE FORZA กับ NANLITE FS ต่างกันอย่างไร ควรซื้อรุ่นไหนถึงจะคุ้มค่า
Nanlite Forza กับ Nanlite FS ต่างกันอย่างไร ควรซื้อรุ่นไหนถึงจะคุ้มค่า Nanlite ผู้นำการผลิตอุปกรณ์เชี่ยวชาญเรื่องไฟที่ออกเเบบไฟที่ใช้งานได้หลายรูปเเบบ ออกเเบบให้ดูสวยงามทันสมัย ดีไซน์สวย ให้ได้ทั้งความสวยงามเเละฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมการใช้งานในหลายด้าน ตอบโจทย์การใช้งานตั้งเเต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงงานไฟสตูดิโอระดับภาพยนตร์
ซึ่ง Nanlite ได้ผลิตไฟสตูดิโอต่อเนื่องในซีรีส์ Forza กับ FS เพื่อออกมาให้ได้ลองใช้งานกันทั้งสองแบบแล้ว เเต่ทั้งสองซีรีส์มีความเเตกต่างกันอย่างไร เรามาดูให้หายสงสัยกันเลย
Nanlite Forza กับ Nanlite FS ต่างกันอย่างไร ควรซื้อรุ่นไหนถึงจะคุ้มค่า
1. Nanlite Forza
Nanlite Forza ถือว่าเป็นรุ่นพี่ ที่ถูกสร้างออกมาสู่ตลาดก่อน ซึ่งที่ออกมาให้ใช้งานกันเเล้วเช่น
Nanlite Forza 60 LED Monolight
Nanlite Forza 60B Bicolor
Nanlite Forza 200 LED Monolight
Nanlite Forza 300 LED Monolight
Nanlite Forza 500 LED Monolight
และอุปกรณ์เสริมที่ทำงานร่วมกับไฟสตูดิโอใน Forza ซีรีส์
2. Nanlite FS
Nanlite FS เป็นรุ่นน้องที่เพิ่งมีผลิตภัณฑ์ไฟสตูดิโอต่อเนื่องในซีรีส์นี้ ซึ่งได้แก่
Nanlite FS 150
Nanlite FS 200
Nanlite FS 300
3. Nanlite Forza กับ Nanlite FS เป็นไฟสตูดิโอต่อเนื่องทั้ง ทำงานได้ทั้งในเเละนอกสถานที่
ในขณะนี้ผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Forza ค่อนข้างจะครอบคลุมการทำงานในด้านของความสว่างตั้งเเต่รุ่นเล็กที่สุดคือ Nanlite Forza 60 และรุ่นใหญ่คือ Nanlite Forza 500 ส่วน Nanlite FS ยังคงมีผลิตภัณฑ์รุ่นเล็กที่สุดคือ Nanlite FS 150 และรุ่นใหญ่ที่สุดคือ Nanlite FS 300 โดยทั้งสองซีรีส์รองรับการทำงานที่ต้องเคลื่อนย้ายและทำงานทั้งในและนอกสถานที่
4. Nanlite Forza ให้ความสว่างสูงกว่า น้ำหนักที่เบากว่า เมื่อเทียบกับ Nanlite FS ที่ให้กำลังวัตต์เท่ากัน
เมื่อเทียบกำลังไฟและน้ำหนักของตัวไป จะเห็นว่า Nanlite Forza ให้ความสว่างสูงกว่า น้ำหนักที่เบากว่า เช่น Nanlite Forza 300 ให้ความสว่างสูงสุด 68060 ลักซ์ที่ระยะห่างจากตัวเเบบ 1 เมตรโดยใช้ตัวสะท้อนในขณะที่ Nanlite FS 300 ให้ความสว่างสูงสุด 41040 ลักซ์ที่ระยะห่างจากตัวเเบบ 1 เมตร โดยใช้ตัวสะท้อนเช่นกัน และในซีรีส์ Nanlite FS มีการออกแบบตัวสะท้อนเเบบใหม่เพื่อให้เเสงสว่างนิ่ม และละมุนมากกว่าเดิม
5. Nanlite Forza รองรับการใช้งานทั้งไฟบ้านเเละเเบตเตอรี่ในขณะที่ Nanlite FS จะใช้พลังงานจากไฟบ้านเท่านั้น
Nanlite Forza ทุกรุ่นรองรับการใช้งานกับแบตเตอรี่โดยสามารถใช้งานเเบตเตอรี่เพื่อการใช้งานในสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้า หรือเพื่อการเคลื่อนย้ายโดยปราศจากสายเคเบิล ส่วน Nanlite FS จะใช้พลังงานหลักจากไฟฟ้าเท่านั้น เเต่มีสายไฟให้ยาวถึง 4.5 เมตรเพื่อสะดวกในการเชื่อมต่อ
6. Nanlite Forza มีระบบระบายอากาศที่เคลมว่าเงียบมาก ไม่กระทบกับการทำงาน
ระบบระบายอากาศเพื่อลดความร้อนเพื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งทั้ง Nanlite Forza และ Nanlite FS ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งใน Nanlite Forza จะลดเสียงในการทำงานของพัดลมระบายอากาศลงจนถึงขึ้นเงียบมาก ทั้งยังสามารถปิดพัดลมระบายอากาศได้ถ้าต้องการความเงียบสนิท
7. Nanlite Forza ควบคุมการทำงานได้ทั้งปุ่มควบคุมที่แผงควบคุม รีโมตคอนโทรลเเละรองรับการควบคุมแบบ DMX connection
การควบคุมระยะใกล้และระยะไกลทำได้ทั้งใน Nanlite Forza และ Nanlite FS ทั้งการควบคุมโดยตรงจากเเผงควบคุมเเละการใช้รีโมตคอนโทรล เเต่ Nanlite Forza จะรองรับการควบคุมแบบ DMX connection เพิ่มเข้ามาด้วย
8. Nanlite Forza มีเอฟเฟคแสง 4 เเบบ ในขณะที่ Nanlite FS มี 11 แบบ
เอฟเฟคเเสงหรือรูปแบบเเสงที่เลียนเเบบแสงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติหรือเเสงที่เป็นเเสงสังเคราะห์ในสถานการณ์ต่าง ๆ มักจะถูกใช้เพื่อสร้างบรรยากาศเเละเติมเต็มการเล่าเรื่องราวให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งใน Nanlite Forza มีเอฟเฟคแสง 4 เเบบ เเต่ใน Nanlite FS มีให้เลือกใช้งานถึง 11 แบบ
9. Nanlite Forza ไม่มีช่อง USB build-in สำหรับการอัพเดท firmware
จากแผงควบคุมของ Nanlite Forza จะเห็นว่าไม่มีช่อง USB ที่จะใช้เพื่ออัพเดท firmware เเต่บน Nanlite FS มีอยู่บนเเผงควบคุม
จะเห็นได้ว่า Nanlite Forza จะเป็นไฟสตูดิโอที่รองรับการทำงานระดับมืออาชีพ ทำงานเชิงพาณิชอย่างจริงจัง โดย Nanlite FS ออกมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ที่เริ่มทำงานสตูดิโอ จนถึงงานระดับมืออาชีพงานวิดีโอภาพยนตร์ เเละด้วยราคาของ Nanlite Forza ที่ค่อนข้างสูงกว่า Nanlite FS ค่อนข้างมาก จึงตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่มีงบค่อนข้างจำกัด
10. Nanlite FS เน้นราคาที่เข้าถึงง่ายกว่ารุ่น Forza เหมาะสำหรับคนที่เน้นการลงทุนที่น้อยกว่า
Nanlite ในรุ่น FS นั้นจะเป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่าด้านราคาและสเปคที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพ ถ้าหากว่าโจทย์ของคนที่ทำงานด้านสตูดิโอ มีข้อจำกัดในด้านงบประมาณ แต่ต้องการรับงานในระดับมืออาชีพ แนะนำว่าลองมอง Nanlite FS ก่อน เพราะราคาเข้าถึงง่ายกว่าครับ